ข้อบังคับของสมาคมคนตาบอดมุสลิม

 

ข้อบังคับ

ของ

สมาคมคนตาบอดมุสลิม

 

หมวดที่  1

ข้อความทั่วไป

ข้อ 1.    ชื่อ  สมาคมคนตาบอดมุสลิม  อักษรย่อ (สบ.ม.) มีชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า “MUSALIM ASSOCIATION OF THE BLIND”  อักษรย่อ (MAB)

ข้อ 2.    เครื่องหมายของสมาคมฯ มีลักษณะเป็นรูปมัสยิด มีคนตาบอดทั้งชายและหญิงถือไม้เท้า ขาวยืนอยู่ด้านหน้ามัสยิด และมีดวงตาอยู่ทั้งสองข้าง โดยมีชื่อภาษาไทยลักษณะโค้งครึ่งวงกลม อยู่ด้านบนและชื่อภาษาอังกฤษลักษณะเดียวกันอยู่ด้านล่าง

 

 

 

ข้อ 3.    ที่ตั้งสมาคมฯ มีสำนักงานอยู่ ณ เลขที่ 111 ซอย 5  ถนน ราษฎร์อุทิศ ตำบล หาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัด สงขลา 90110 โทรศัพท์ 0-7425-8868, 08-6696-9822

ข้อ 4.    วัตถุประสงค์ของสมาคมฯ  สมาคมฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อ

4.1    ประสานงานและร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนทั้งในและนอกประเทศ เพื่อให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูและพัฒนาคนตาบอด

4.2    ดำเนินกิจกรรมต่างๆ ในการยกระดับและปรับปรุงคุณภาพชีวิตของสมาชิก ทั้งด้านการศึกษา อาชีพเศรษฐกิจ สถานภาพทางสังคม และอื่น ๆ

4.3    ส่งเสริมความสามัคคีและความเข้าใจอันดีระหว่างคนตาบอดและบุคคลทั่วไป ร่วมกันรักษาสิทธิและหน้าที่อันพึงได้ตามกฎหมาย

4.4    เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารและดำเนินการกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างทัศนคติที่ถูกต้องตลอดจนความเข้าใจอันดีของการอยู่ร่วมกันในสังคมระหว่างคนตาบอดกับบุคคลทั่วไป

4.5    ขอรับสัมปทานจากรัฐในการประกอบกิจการต่างๆที่เป็นการส่งเสริมหรือสนับสนุนให้

                 คนตาบอดได้ประกอบอาชีพหลากหลายเช่น อาชีพค้าสลาก โดยให้จำหน่ายสลากทุก    ประเภทที่จำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือรัฐบาลพิมพ์ออกจำหน่าย  ทั้งนี้ตามความรู้และความสนใจของแต่ ละบุคคล  

        

 

 

4.6    จัดสวัสดิการที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตให้แก่สมาชิก รวมทั้งแก้ไขและขจัดอุปสรรค

ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น

4.7    ส่งเสริมสนับสนุนให้คนตาบอดมีส่วนร่วมในกิจกรรม เศรษฐกิจ และสังคมทั้งที่เป็นการเข้าไปมีส่วนร่วมในกระบวนการกำหนดนโยบายที่มีกระทบ กับคนตาบอด โดยตรงตลอดจนร่วมพัฒนาชุมชนและประเทศชาติโดยรวม

4.8    ส่งเสริมสนับสนุนให้คนตาบอดมีส่วนร่วมในกิจกรรมส่งเสริมทางด้านประชาธิปไตย

4.9    ส่งเสริมและสนับสนุนให้สมาชิกคนตาบอดได้มีการเรียนรู้ทางด้านศาสนา เช่น เรียนอัลกรุอ่าน และฟัรฎูอีน

4.10   ไม่มีการจัดตั้งโต๊ะบิลเลียด

            

หมวดที่ 2

สมาชิก

ข้อ 5.     สมาชิกของสมาคมฯ มี 3 ประเภท คือ

5.1    สมาชิกสามัญ ได้แก่ บุคคลผู้ที่พิการทางสายตาที่นับถือศาสนาอิสลาม

5.2    สมาชิกวิสามัญ ได้แก่

5.2.1          ประเภทบุคคล ได้แก่ บุคคลทั่วไปทีต้องการทำกิจกรรมร่วมกับสมาคมฯ

5.2.2          ประเภทนิติบุคคล ได้แก่ คณะนิติบุคคลหรือคณะบุคคลที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย

5.3    สมาชิกกิตติมศักดิ์ ได้แก่

5.3.1          ประเภทบุคคล ได้แก่ บุคคลผู้ทรงเกรียติหรือทรงคุณวุฒิ หรือผู้มีอุปการคุณแก่สมาคมฯ ซึ่งคณะกรรมการมีการลงมติให้เชิญเข้าเป็นสมาชิกของสมาคม

5.3.2          ประเภทนิติบุคคล  ได้แก่ นิติบุคคลหรือคณะบุคคลที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย

ข้อ 6.    สมาชิกจะต้องประกอบด้วยคุณสมบัติดังต่อไปนี้

           6.1  สมาชิกสามัญต้องเป็นคนพิการทางการมองเห็นตามพระราชบัญญัติการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550  คือ สายตาข้างที่ดีกว่า เมื่อใช้แว่นสายตาธรรมดา แล้วมองเห็นน้อยกว่า 6/18 หรือ 20/70 ลงไปจนถึงมองไม่เห็นแม้แต่แสงสว่าง หรือลานสายตาแคบกว่า 30 องศา และต้องมีคุณสมบัติดังนี้

ก.      มีอายุ  15 ปี ขึ้นไปนับจากวันที่สมัครและต้องนับถือศาสนาอิสลาม

ข.      เป็นผู้ที่มีความประพฤติดี

ค.      ไม่เป็นคนวิกลจริต

ง.       ไม่เป็นบุคคลที่ต้องคำพิพากษาของศาลถึงที่สุดให้จำคุก หรือให้เป็นบุคคลล้มละลายเว้นแต่ความผิดประมาท หรือ ลหุโทษ

6.2    สมาชิกวิสามัญประเภทนิติบุคคล ต้องเป็นนิติบุคคลที่มีสมาชิกสามัญเป็นคนตาบอด

6.3    สมาชิกวิสามัญประเภทบุคคล ต้องมีคุณสมบัติตามข้อ 6.1 ก,ข,ค, และ ง

6.4    สมาชิกกิตติมศักดิ์

ข้อ 7.    การสมัครเป็นสมาชิก การเริ่มต้นสมาชิกภาพ

7.1   ผู้ที่จะสมัครเป็นสมาชิกสมาคมฯ ให้ยื่นใบสมัครต่อนายทะเบียนหรือผู้ที่นายทะเบียนมอบอำนาจ พร้อมกัน

7.1.1          ค่าลงทะเบียนและค่าบำรุงสมาคม

7.1.2           รูปถ่ายขนาด 1 นิ้ว 2 ใบ หน้าตรง ไม่สวมหมวก ไม่ใส่แว่น

7.1.3          สำเนาทะเบียนบ้านและใบรับรองแพทย์ หรือหนังสือรับรองจากทางราชการ หรือหลักฐานการศึกษาจากสถานศึกษาสำหรับคนตาบอดว่าเป็นคนตาบอดจริง

7.1.4          มีสมาชิกสามัญ 1 คน รับรองคุณสมบัติ กรณีที่เป็นคณะบุคคลให้ยื่นเอกสารหลักฐานของคณะบุคคลนั้น ๆ พร้อมกับข้อบังคับ ของคณะบุคคลนั้น

7.2   การเริ่มต้นสมาชิกภาพ  สมาชิกของสมาคมฯ ให้เริ่มต้นเมื่อนายทะเบียนได้แจ้งให้ทราบถึงการได้เข้าเป็นสมาชิกของสมาคมฯ ซึ่งนายทะเบียนต้องแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษร ให้ผู้สมัครทราบภายใน 30 วัน นับจากวันสมัคร หากต่อมาภายหลังพบว่าผู้สมัครมีคุณสมบัติไม่ครบตามข้อบังคับนี้ โดยการวินิจฉัยของคณะกรรมการบริหารฯ ให้นายทะเบียนสั่งเพิกถอนการรับผู้สมัครนั้น เข้าเป็นสมาชิกของสมาคมฯ

7.3   สมาชิกภาพของสมาชิกกิตติมศักดิ์ ให้เริ่มนับตั้งแต่วันที่หนังสือตอบรับคำเชิญของผู้ที่คณะกรรมการได้พิจารณาลงมติให้เชิญเข้าเป็นสมาชิกของสมาคม ได้มาถึงยังสมาคม

ข้อ 8.    ค่าลงทะเบียน และค่าบำรุงสมาคม

8.1   สมาชิกสามัญ ค่าลงทะเบียนครั้งแรก                 =          10         บาท

             ค่าบำรุงรายปี ๆ ละ                                  =          50         บาท

             ตลอดชีพ                                               =          300       บาท

8.2   สมาชิกวิสามัญ  ค่าลงทะเบียนครั้งแรก               =          10         บาท

             ค่าบำรุงรายปี ๆ ละ                                  =          100       บาท

             ตลอดชีพ                                               =          300       บาท

8.3   ประเภทนิติบุคคล  ค่าลงทะเบียนครั้งแรก           =          30         บาท

             ค่าบำรุงรายปี ๆ ละ                                  =          300       บาท

             ตลอดชีพ                                               =          1000     บาท

8.4   สมาชิกกิตติมศักดิ์ มิต้องเสียค่าลงทะเบียน และค่าบำรุงสมาคมแต่อย่างใดทั้งสิ้น

ข้อ 9.    สมาชิกภาพของสมาชิกให้สิ้นสุดลงด้วยเหตุดังต่อไปนี้

9.1    ตาย

9.2    ลาออก โดยยื่นหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรต่อเลขานุการหรือนายกสมาคมและคณะกรรมการได้พิจารณาอนุมัติ และสมาชิกผู้นั้นได้ชำระหนี้สินที่ยังติดค้างอยู่กับสมาคมเป็นที่เรียบร้อย

9.3    ขาดคุณสมบัติสมาชิก (ตามข้อ 6)

9.4    ที่ประชุมใหญ่ของสมาคม หรือคณะกรรมการได้พิจารณาลงมติให้ลบชื่อออกจากทะเบียน เพราะสมาชิกผู้นั้นได้ประพฤตินำความเสื่อมเสียมาสู่สมาคม ในกรณีนี้ต้องให้ผู้นั้นได้มีโอกาสชี้แจงข้อเท็จจริงต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหารหรือที่ประชุมใหญ่

ข้อ 10.  สิทธิของสมาชิกสามัญ

10.1    มีสิทธิ์ออกเสียงได้คนละ 1 เสียง ทุกครั้งที่มีลงคะแนนเสียง (ห้ามออกเสียงแทนกัน)

10.2    แสดงความคิดเห็น หรือตั้งกระทู้ถามในเรื่องเกี่ยวกับกิจการของสมาคมฯ หรือที่เกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ของสมาชิก การยื่นกระทู้ถามต้องมีสมาชิกสามัญลงลายมือชื่อร่วมกันอย่างน้อย 10 คน โดยยื่นก่อนมีการประชุมอย่างน้อย 7 วัน เว้นแต่เป็นกรณีฉุกเฉิน หรือคณะกรรมการบริหารยินดีตอบแม้จะยื่นในวันประชุม

10.3    ขอเปิดอภิปรายทั่วไปหรือเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจคณะกรรมการบริหารทั้งคณะหรือเป็นรายบุคคลได้ทุกครั้งที่มีการประชุมสมาชิก โดยยื่นคำขอต่อนายกสมาคมฯ ซึ่งต้องมีสมาชิกสามัญลงลายมือชื่อร่วมกันอย่างน้อยหนึ่งในห้าของจำนวนสมาชิกสามัญทั้งหมด

10.4    ขอเปิดประชุมวิสามัญ ได้โดยการลงลายมือชื่อร่วมกันอย่างน้อย หนึ่งในห้า ของจำนวนสมาชิกสามัญทั้งหมด โดยร้องขอต่อเลขานุการ หรือนายกสมาคมฯ

10.5    ใช้สถานที่ของสมาคมฯ  โดยเสมอภาคกัน ทั้งนี้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่สมาคมฯได้กำหนดขึ้น

10.6    ได้รับสวัสดิการจากสมาคมฯ  โดยเสมอภาคกัน ทั้งนี้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่สมาคมฯกำหนดขึ้น

10.7    มีสิทธิเข้าร่วมประชุมใหญ่ของสมาคม

10.8    สมาชิกสามัญมีสิทธิในการเลือกตั้งหรือแต่งตั้งเป็นกรรมการสมาคมและมีสิทธิออกเสียงลงมติต่าง ๆ

10.9    สิทธิอื่น ๆ ตามที่คณะกรรมการบริหารจะมีมติกำหนด

ข้อ 11.  หน้าที่ของสมาชิก

11.1    ปฏิบัติตามระเบียบ ข้อบังคับ ของสมาคมโดยเคร่งครัด

11.2    ประพฤติตนให้สมเกียรติที่เป็นสมาชิกของสมาคม

11.3    ให้ความร่วมมือและสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ของสมาคม

11.4    ชำระค่าบำรุง หากสมาชิกไม่ชำระค่าบำรุงในปีใดให้หมดสิทธิต่าง ๆที่จะได้รับจากระเบียบข้อบังคับของสมาคม และจะได้รับสิทธิเหล่านั้นคืนมาหลังจากที่ได้ชำระค่าบำรุงแล้ว 30 วัน

11.5    มีหน้าที่ช่วยเผยแพร่ชื่อเสียงของสมาคมให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย

11.6    สมาชิกสามัญประเภทบุคคลมีหน้าที่เข้าร่วมประชุมใหญ่ ของสมาคม ฯ

 

หมวดที่ 3

การดำเนินกิจกรรมสมาคม

ข้อ 12.  ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่งทำหน้าที่บริหารกิจการของสมาคม มีจำนวนอย่างน้อย 6 คน อย่างมากไม่เกิน 9 คน  คณะกรรมการนี้ได้มาจากการเลือกตั้งของที่ประชุมใหญ่ของสมาคมและผู้ที่ได้เลือกตั้งจากที่ประชุมใหญ่เลือกตั้งกันเอง เป็นนายกสมาคม 1 คน และอุปนายก 1 คน สำหรับตำแหน่งกรรมการในตำแหน่งอื่น ๆ ให้นายกเป็นผู้แต่งตั้งผู้ที่ได้รับเลือกตั้งจากที่ประชุมใหญ่เข้าดำรงตำแหน่งต่าง ๆ ของสมาคมที่ได้กำหนดไว้ ซึ่งตำแหน่งของคณะกรรมการสมาคม มีตำแหน่งและหน้าที่โดยสังเขป ดังต่อไปนี้

12.1  นายกสมาคม

ทำหน้าที่ เป็นหัวหน้าในการบริหารกิจการของสมาคม เป็นผู้แทนสมาคมในการติดต่อกับบุคคลภายนอก และทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุมคณะกรรมการ และการประชุมใหญ่ของสมาคม

12.2  อุปนายก

ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยนายกสมาคมในการบริหารกิจการสมาคมปฏิบัติตามที่นายกมอบหมายหรือปฏิบัติหน้าที่แทนนายกสมาคมให้อุปนายกตามลำดับตำแหน่งเป็นผู้กระทำการแทน

12.3  เลขาธิการ

ทำหน้าที่ เกี่ยวกับงานธุรการของสมาคมทั้งหมด เป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่ของสมาคมในการปฏิบัติกิจการของสมาคม และปฏิบัติตามคำสั่งของนายกสมาคมตลอดจนทำหน้าที่เป็นเลขานุการในการประชุมต่าง ๆ ของสมาคม

12.4  เหรัญญิก

มีหน้าที่เกี่ยวกับการเงินทั้งหมดของสมาคม เป็นผู้จัดทำ

รายรับรายจ่าย  บัญชีงบดุลของสมาคม และเก็บเอกสารหลักฐานต่าง ๆ  ของสมาคมไว้เพื่อตรวจสอบ

12.5  ประชาสัมพันธ์

มีหน้าที่เผยแพร่กิจการและชื่อเสียงเกียรติคุณของสมาคมให้สมาชิกและบุคคลโดยทั่วไปให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย

12.6  นายทะเบียน

มีหน้าที่กับทะเบียนสมาชิกทั้งหมดของสมาคมประสานงานกับสมาชิกกับเหรัญญิกในการเรียกเก็บค่าบำรุงสมาคมจากสมาชิก

12.7

กรรมการตำแหน่งอื่น ๆ  ตามความเหมาะสม ซึ่งคณะกรรมการเห็นสมควรกำหนดให้มีขึ้น โดยมีจำนวนเมื่อรวมตำแหน่งกรรมการตามข้างต้นแล้ว จะต้องไม่เกินจำนวนที่ข้อบังคับได้กำหนดไว้  แต่ถ้าคณะกรรมการมิได้กำหนดตำแหน่งก็ถือว่าเป็นกรรมการกลาง 

            คณะกรรมการชุดแรกให้ผู้เริ่มจัดตั้งสมาคมเป็นผู้เลือกตั้งประกอบด้วย นายกสมาคมและกรรมการอื่น ๆ ตามที่เห็นสมควรตามข้อบังคับของสมาคม

ข้อ 13.  ในการบริหารงานของสมาคมคณะกรรมการอาจจะพิจารณาให้มีสำนักงานดังต่อไปนี้ 

อยู่ที่สำนักงานใหญ่

(1)  สำนักงาน เลขาธิการนายกสมาคม ฯ มีอำนาจหน้าที่ในการสนับสนุนการปฏิบัติงานของสมาคมฯ และกระทำการอื่นใดตามนายกฯ สั่งการ

(2)  สำนักงานเลขาธิการสมาคม  มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการบริหารกิจการภายในของสมาคม  และกิจการที่มิได้กำหนดให้เป็นหน้าที่ของสำนักงานใดสำนักงานหนึ่งโดยเฉพาะ

(3)  สำนักงานนโยบาย และแผนมีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการสนับสนุนกิจกรรมต่าง ๆ ของสมาคมในทางข้อมูลและวิชาการงานด้านการต่างประเทศของสมาคม งานจัดทำแผนกิจกรรมและงบประมาณและงานอื่น ๆ ตามที่นายกหรือคณะกรรมการบริหารมอบหมาย

(4)  สำนักงานบัญชีและการเงิน  มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการบริหารงานด้านการเงินและบัญชีของสมาคมให้เรียบร้อยมีประสิทธิภาพและเป็นไปตามกฎหมาย และข้อบังคับและงานอื่น ๆ  ที่นายกหรือคณะกรรมการบริหารมอบหมาย

(5)  สำนักงานสลาก  มีอำนาจในการบริหารจัดการสลากที่สมาคมได้รับ

(6)  สำนักงานอื่นที่คณะกรรมการบริหารมีมติให้จัดตั้งขึ้น คณะกรรมการบริหารมีอำนาจกำหนดอำนาจหน้าที่เพิ่มเติม และแบ่งส่วนงานภายในของแต่ละสำนักงานดังกล่าวข้างต้นตามที่เห็นสมควรการกำหนดตำแหน่ง ลักษณะงาน หน้าที่ ความรับผิดชอบ อัตราเงินเดือนของเจ้าหน้าที่ ตลอดจนการแต่งตั้ง การถอดถอนเจ้าหน้าที่และอื่น ๆ ให้เป็นไปตามระเบียบที่คณะกรรมการบริหารกำหนด

ข้อ 14      คณะกรรมการของสมาคมอยู่ในตำแหน่งคราวละ 4 ปี  และเมื่อคณะกรรมการอยู่ใน

  ตำแหน่งครบตามวาระที่กำหนดแล้ว  แต่คณะกรรมการชุดใหม่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้จดทะเบียนจากทางราชการก็ให้คณะกรรมการก็ให้คณะกรรมการที่ครบกำหนดตามวาระรักษาการก่อนจนกว่าคณะกรรมการชุดใหม่จะได้รับอนุญาตให้จดทะเบียนทางราชการ และเมื่อคณะกรรมการชุดใหม่ได้รับอนุญาตให้จดทะเบียนทางราชการเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็ได้ทำการส่งและรับมอบงานกันระหว่างคณะกรรมการชุดเก่าและคณะกรรมการชุดใหม่ให้เสร็จสิ้นภายใน 15 วัน  นับแต่วันที่คณะกรรมการชุดใหม่ได้รับอนุญาตให้จดทะเบียนจากทางราชการ

ข้อ 15      ตำแหน่งกรรมการสมาคม ถ้าต้องว่างลงก่อนครบกำหนดวาระ  ก็ให้คณะกรรมการแต่งตั้ง

สมาชิกสามัญคนใดคนหนึ่งที่เห็นสมควรเข้าดำรงตำแหน่งแทนตำแหน่งที่ว่างลงนั้นแต่ให้        ดำรงตำแหน่งได้ตามวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการที่แทน

ข้อ 16     กรรมการอาจจะพ้นจากตำแหน่ง ซึ่งมิใช่เป็นการออกตามวาระด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้ คือ

16.1    ตาย

16.2    ลาออก โดยต้องยื่นหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรต่อเลขานุการหรือนายกสมาคม

16.3    ขาดสมาชิกภาพ

16.4    โดยการยื่นญัตติเพื่อถอดถอน จะต้องมีจำนวนสมาชิกสามัญลงลายมือชื่อร่วมกันอย่างน้อยหนึ่งในห้าของจำนวนสมาชิกสามัญทั้งหมด  และที่ประชุมใหญ่ลงมติให้ออกจากตำแหน่งโดยอาศัยมติสมาชิกสามัญกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมด

16.5    ขาดการประชุมเกินกว่า1/3ของสมัยการดำรงตำแหน่ง

ข้อ 17  อำนาจและหน้าที่ของคณะกรรมการ

17.1    มีอำนาจออกระเบียบปฏิบัติต่าง ๆ  เพื่อให้สมาชิกได้ปฏิบัติ  โดยระเบียบปฏิบัตินั้นจะต้องไม่ขัดต่อข้อบังคับฉบับนี้

17.2    มีอำนาจแต่งตั้งแต่ถอดถอนเจ้าหน้าที่ของสมาคม

17.3    มีอำนาจแต่งตั้งกรรมการที่ปรึกษาหรืออนุกรรมการได้  แต่กรรมการที่ปรึกษา หรืออนุกรรมการจะสามารถอยู่ในตำแหน่งได้ไม่เกินวาระของคณะกรรมการที่แต่งตั้ง

17.4    มีอำนาจเรียกประชุมใหญ่สามัญประจำปี  และประชุมใหญ่วิสามัญ

17.5    มีอำนาจแต่งตั้งกรรมการในตำแหน่งอื่น ๆ  ที่ยังมิได้กำหนดไว้ในข้อบังคับนี้

17.6    มีอำนาจบริหารกิจการของสมาคม เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ตลอดจนมีอำนาจอื่น ๆ  ตามที่ข้อบังคับได้กำหนดไว้

17.7    มีหน้าที่รับผิดชอบในกิจการทั้งหมด รวมทั้งการเงิน และทรัพย์สินทั้งหมดของสมาคม

17.8    มีหน้าที่พิจารณาจัดให้มีการประชุมใหญ่วิสามัญ  ตามที่สมาชิกสามัญจำนวนหนึ่งในห้าของสมาชิกทั้งหมดเข้าชื่อร้องขอ  ให้จัดประชุมใหญ่วิสามัญขั้น  ซึ่งการนี้จะต้องจัดให้มีการประชุมใหญ่วิสามัญภายใน 30  วัน  นับแต่วันที่ได้รับหนังสือต้องขอ

17.9    มีหน้าที่จัดทำเอกสารหลักฐานต่าง ๆ  ทั้งที่เกี่ยวกับการเงิน  ทรัพย์สินและการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ  ของสมาคมให้ถูกต้องตามหลักวิชาการและสามารถจะให้สมาชิกทำการตรวจสอบได้เมื่อมีการร้องขอ

17.10 จัดทำบันทึกการประชุมต่าง ๆ   ของสมาคมเพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน  และจัดส่งให้สมาชิกได้ทราบตามความเหมาะสม

17.11 มีหน้าที่อื่นๆ  ตามที่ข้อบังคับได้กำหนดไว้

ข้อ 18      คณะกรรมการจะต้องประชุมกันสองเดือนต่อ 1 ครั้ง  ทั้งนี้เพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับการ

             บริหารกิจการของสมาคม

ข้อ  19  การประชุมคณะกรรมการ  จะต้องมีคณะกรรมการเข้าร่วมประชุม  ไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของ

กรรมการทั้งหมดจึงจะถือว่าครบองค์ประชุม   มติของที่ประชุมของคณะกรรมการ ถ้าข้อบังคับมิได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่น   ก็ให้ถือคะแนนเสียงข้างมากเป็นเกณฑ์  แต่ถ้าคะแนนเท่ากันก็ให้ประธานในการประชุมเป็นผู้ชี้ขาด

ข้อ  20   ในการประชุมคณะกรรมการ   ถ้านายกสมาคม  และอุปนายกสมาคมไม่อยู่ในที่ประชุม

หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ก็ให้คณะกรรมการที่เข้าประชุมในคราวนั้นเลือกตั้งกันเอง  เพื่อให้กรรมการคนใดคนหนึ่งทำหน้าที่เป็นประธานในการประชุมคราวนั้น

ข้อ 21      เจ้าหน้าที่ประจำ  ได้แก่  บุคคลที่คณะกรรมการสมาคมทำการคัดเลือก  เพื่อทำหน้าที่ใน

การช่วยเหลือและดำเนินงานของสมาคมให้เป็นไปตามระเบียบข้อบังคับฉบับนี้

ข้อ 22     สภาผู้ทรงคุณวุฒิ หมายถึง อดีตนายกสมาคมทุกคนซึ่งยังคงเป็นสมาชิกของสมาคม

ข้อ 23     อำนาจหน้าที่ของสภาผู้ทรงคุณวุฒ

23.1  ให้คำปรึกษาต่อคณะกรรมการ ในกำหนดทิศทาง นโยบาย แผนงาน และการดำเนินโครงการของสมาคม

23.2  ได้รับเชิญเข้าร่วมเป็นคณะทำงานในการยกร่างระเบียบ  ข้อบังคับต่าง ๆ  ของสมาคม

23.3  วินิจฉัยชี้ขาดกรณีพิพาทอันเกิดจากข้อบังคับหรือระเบียบต่าง ๆ  ของสมาคม รวมทั้งข้อพิพาทอันเกี่ยวกับกิจการภายในสมาคม ทั้งนี้ให้เป็นไปตามคำร้องขอ การวินิจฉัยขอ

สภาผู้ทรงคุณวุฒิให้ถือเป็นที่สุด เว้นแต่สภาผู้ทรงคุณวุฒิเห็นสมควรให้นำเสนอเพื่อขอคำวินิจฉัยชี้ขาดจากการประชุมใหญ่สมาคม

ข้อ  24   คณะกรรมการที่ปรึกษาหมายถึง  บุคคลทั้งในและต่างประเทศ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสมาคม

ที่คณะกรรมการบริหารเชิญเป็นคณะกรรมการที่ปรึกษา  โดยมีวาระในการดำรงตำแหน่งตามวาระของคณะกรรมการที่ตั้งขึ้น

ข้อ 25   อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการปรึกษา

25.1    ให้คำปรึกษาแก่คณะกรรมการบริหาร  เมื่อมีการร้องขอ

25.2    ทำหน้าที่กรรมการในการดำเนินโครงการ เมื่อได้รับคำเชิญจากคณะกรรมการ

25.3    ให้การสนับสนุนและแนะนำในการบริหารงานแก่คณะกรรมการและเจ้าหน้าที่ตามเห็นสมควร

 

 

 

 

บทที่ 4

การประชุมใหญ่

ข้อ 26      การประชุมใหญ่ของสมาคม มี 2 ชนิด

26.1    การประชุมใหญ่สามัญ

26.2    การประชุมใหญ่วิสามัญ

ข้อ 27      คณะกรรมการจะต้องจัดให้มีการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ปีละ 1 ครั้ง ภายในเดือน

             พฤษภาคมของทุกปี

ข้อ  28    การประชุมใหญ่วิสามัญ  อาจจะมีขึ้นได้ก็โดยเหตุที่คณะกรรมการเห็นควรจัดให้มีขึ้น 

หรือเกิดขึ้นด้วยการเข้าชื่อร่วมกันของสมาชิกไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้าของสมาชิกสามัญทั้งหมด ร้องขอต่อคณะกรรมการให้มีการจัดขึ้น

ข้อ  29  การแจ้งกำหนดการนัดประชุมใหญ่ให้เลขานุการ เป็นผู้แจ้งกำหนดนัดประชุมใหญ่ให้

สมาชิกได้ทราบ  และการแจ้งจะต้องแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษร  หรืออาจจะใช้วิธีการอื่นที่สะดวกและเหมาะสมก็ได้  โดยระบุวัน  เวลา  และสถานที่ให้ชัดเจน  โดยจะต้องแจ้งให้สมาชิกทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 7 วัน  และประกาศแจ้งกำหนดนัดประชุมไว้ ณ สำนักงานของสมาคมเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 7 วัน  ก่อนถึงกำหนดการประชุมใหญ่

ข้อ 30  การประชุมใหญ่สามัญประจำปี  จะต้องมีวาระการประชุมอย่างน้อยดังต่อไปนี้

31.1    แถลงกิจการที่ผ่านมาในรอบปี

31.2    แถลงบัญชีรายรับ รายจ่าย และบัญชีงบดุลของปีที่ผ่านมาให้สมาชิกได้รับทราบ

31.3    เลือกตั้งคณะกรรมการชุดใหม่  เมื่อครบกำหนดวาระ

31.4    เรื่องอื่น ๆ  ถ้ามี

ข้อ 31.  ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี  หรือการประชุมใหญ่วิสามัญ  จะต้องมีสมาชิกสามัญเข้า

ร่วมประชุมไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของสมาชิกทั้งหมด  จึงจะถือว่าครบองค์ประชุม แต่ถ้าเมื่อถึงกำหนดเวลาประชุมยังมีสมาชิกสามัญเข้าร่วมประชุมไม่ครบองค์ประชุมก็ให้คณะกรรมการของสมาคมเรียกประชุมใหญ่อีกครั้งหนึ่ง  และให้จัดประชุมใหญ่สามัญอีกครั้งหนึ่งภายใน 14 วัน นับแต่วันที่นัดประชุมครั้งแรก  การประชุมครั้งหลังนี้ไม่บังคับว่าต้องครบองค์ประชุม

ข้อ  32  การลงมติต่าง ๆ  ในที่ประชุมใหญ่  ถ้าข้อบังคับได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่นก็ให้ถือคะแนน

เสียงมากเป็นเกณฑ์  แต่ถ้าคะแนนเสียงเท่ากันก็ให้ประธานในที่ประชุมเป็นผู้ชี้ขาด

ข้อ  33  การลงมติต่าง ๆ  ในที่ประชุมใหญ่  ถ้านายกและอุปนายกไม่มาร่วมประชุม  หรือไม่สามารถ

ปฏิบัติหน้าที่ได้  ก็ให้เลือกคณะกรรมการคนใดคนหนึ่งเพื่อทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมในคราวนั้น

 

 

หมวดที่ 5

การเงินและทรัพย์สิน

 

ข้อ  34    การเงินและการทรัพย์สินทั้งหมดให้อยู่ในความรับผิดชอบของคณะกรรมการ  เงินสดของ

สมาคมถ้ามีให้นำฝากไว้กับธนาคาร  ในนามของสมาคม  แต่คณะกรรมการสามารถกันเงินสดไว้เพื่อสำรองจ่ายเป็นเงินไม่เกิน 10,000  บาท  (หนึ่งหมื่นบาท)

ข้อ  35  การลงนามในตั๋วเงิน / เช็คของสมาคมหรือการเบิกถอนเงิน จะต้องมีลายมือชื่อของนายก

สมาคมหรือผู้ทำการแทนลงนามร่วมกับเหรัญญิก  หรือเลขานุการ  พร้อมกับประทับตราของสมาคมจึงจะถือว่าใช้ได้

ข้อ  36  ให้นายกสมาคมมีอำนาจสั่งจ่ายเงินของสมาคมได้ครั้งละไม่เกิน 10,000  บาท (หนึ่งหมื่น

บาทถ้วน)   ถ้าเกินกว่านั้นจะต้องได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการ และคณะกรรมการจะอนุมัติให้จ่ายเงินได้ครั้งละไม่เกิน 50,000  บาท (ห้าหมื่นบาทถ้วน)  ถ้าจำเป็นต้องจ่ายเงินเกินว่านี้ต้องได้รับอนุญาตจากที่ประชุมใหญ่ของสมาคม

ข้อ  37  ให้เหรัญญิกมีอำนาจเก็บรักษาเงินสดของสมาคมไม่เกิน 10,000  บาท (หนึ่งหมื่นบาทถ้วน)  

ถ้าเกินกว่าจำนวนนี้จะต้องนำฝากธนาคารในบัญชีของสมาคมทันทีที่โอกาสอำนวยให้

ข้อ  38  เหรัญญิก  จะต้องทำบัญชีรายรับ รายจ่าย และบัญชีงบดุลให้ถูกต้องตามหลักวิชาการ  การรับ

หรือจ่ายเงินทุกครั้ง  จะต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อของนายกสมาคมหรือผู้ทำการแทนร่วมกับเหรัญญิกหรือผู้ทำการแทน  พร้อมกับประทับตราของสมาคมทุกครั้ง

ข้อ  39   ผู้สอบบัญชี จะต้องมิใช่กรรมการหรือเจ้าหน้าที่ของสมาคม และจะต้องเป็นผู้สอบบัญชีที่

ได้รับอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย

ข้อ 40  ผู้สอบบัญชีมีอำนาจหน้าที่จะเรียกเอกสารเกี่ยวกับการเงินและทรัพย์สินจากคณะกรรมการ

และสามารถจะเชิญกรรมการหรือเจ้าหน้าที่ของสมาคมเพื่อสอบถามเกี่ยวกับทรัพย์สินของสมาคมได้

ข้อ  41  คณะกรรมการจะต้องให้ความร่วมมือกับผู้สอบบัญชี  เมื่อได้รับการร้องขอ

ข้อ  42  รอบระยะเวลาบัญชีของสมาคม  เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม  ถึง  31  ธันวาคม  เมื่อสิ้นเดือน

ธันวาคมของทุกปีให้เหรัญญิกทำงบดุล  โดยมีผู้ตรวจสอบบัญชีรับรองว่าถูกต้องแล้วเสนอต่อคณะกรรมการบริหารภายในเดือนเมษายนของทุกปี  และประกาศ ณ ที่ทำการสมาคมฯ ไม่น้อยกว่า 15 วัน

 

 

 

 

 

หมวดที่ 6

การเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อบังคับและการเลิกสมาคม

ข้อ 43   ข้อบังคับของสมาคมจะเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้โดยมติที่ประชุมใหญ่และองค์ประชุมใหญ่ต้อง

มีสมาชิกสามัญเข้าร่วมประชุมไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของสมาชิกสามัญทั้งหมด ในการเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อบังคับ จะต้องได้รับคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ของคณะกรรมการที่เข้าร่วมประชุมทั้งหมด

ข้อ  44  การเลิกสมาคมจะเลิกได้โดยมติของที่ประชุมใหญ่ของสมาคม ยกเว้นการเลิกเพราะเหตุของ

กฎหมาย มติของที่ประชุมใหญ่ที่ให้เลิกสมาคมจะต้องมีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของสมาชิกสามัญที่เข้าร่วมประชุมทั้งหมดและองค์ประชุมใหญ่จะต้องไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของสมาชิกสามัญทั้งหมด

ข้อ 45   เมื่อสมาคมต้องเลิก ไม่ว่าด้วยเหตุใด ๆ ก็ตาม   ทรัพย์สินของสมาคมที่เหลืออยู่ หลังจากที่ได้รับชำระบัญชีเป็นที่เรียบร้อยแล้วให้ตกเป็นขององค์กรหรือสถานสงเคราะห์ของมุสลิม

หมวดที่ 7

เบ็ดเตล็ด

ข้อ  46  คุณสมบัติของผู้สมัครเป็นนายกสมาคม

46.1   จะต้องเป็นสมาชิกของสมาคม ไม่น้อยกว่า 2 ปี

46.2  ต้องมีอายุไม่น้อยกว่า 25 ปี นับถึงวันสมัคร

46.3  เป็นผู้รอบรู้และมีประสบการณ์กว้างขวาง

46.4  ไม่มีหนี้สินผูกพันกับสมาคม ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหนี้หรือลูกหนี้ก็ตาม

ข้อ 47  คุณสมบัติของผู้สมัครเป็นกรรมการสมาคม

           47.1  ต้องเป็นสมาชิกของสมาคมไม่น้อยกว่า 1 ปี

           47.2  มีอายุไม่น้อยกว่า 20 ปี  นับถึงวันสมัคร

           47.3  เป็นผู้รอบรู้และมีประสบการณ์กว้างขวาง

           47.4  ไม่มีหนี้สินผูกพันกับสมาคม ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหนี้หรือลูกหนี้ก็ตาม

  ข้อ สวัสดิการสมาชิก ของสมาคมฯประกอบด้วย

           48.1 สวัสดิการช่วยเหลือการรักษาพยาบาลเป็นเงินช่วยเหลือสมาชิกที่รักษา ตัว                  ณ.สถานพยาบาลของรัฐหรือเอกชน โดยจ่ายตามจำนวนเงินที่ปรากฏตามหลักฐานการจ่ายเงินที่แนบมากับใบคำร้อง ไม่เกินครั้งละ 500 บาท สมาชิกหนึ่งรายจะได้รับสวัสดิการนี้ ไม่เกินปีละ 500 บาทโดยจะต้องเป็นสมาชิกของสมาคม ไม่น้อยกว่า 120 วันนับจากวันที่สมัครโดยต้องยื่นหลักฐานการจ่ายเงินตัวจริงเท่านั้น สมาคมฯจะไม่จ่ายสวัสดิการรักษาพยาบาลให้แก่สมาชิกที่รับสวัสดิการจากหน่วยงานต้นสังกัดที่ทำงานเช่น หน่วยงานราชการ เอกชน หรือ บริษัท สมาชิกที่ประสงค์จะขอรับสวัสดิการนี้ ต้องยื่นคำร้องภายใน 60 วัน นับจากวันที่ได้ชำระค่ารักษาพยาบาล

           48.2 สวัสดิการการคลอดบุตรของสมาชิก ในกรณีที่ทั้งพ่อและแม่เป็นสมาชิกจะได้รับสวัสดิการแค่คนหนึ่งคนใด โดยการคลอดบุตรครั้งละ 500 บาท โดยจะต้องนำหลักฐานมาแสดงหรือยื่นคำร้องภายใน 60 วัน นับจากวันที่คลอดบุตร

           48.3 สวัสดิการช่วยเหลือการ ฌาปนกิจ เป็นเงินช่วยเหลือกรณีที่สมาชิกเสียชีวิต รายละ 2,000 บาท โดยทายาทโดยธรรมและสมาชิกรับรอง 1 คน ต้องนำหลักฐานการเสียชีวิตที่ทางราชการออกให้ มายื่นภายใน 30 วัน นับจากวันที่เสียชีวิต

           48.4 ทุนการศึกษา หากสมาคมฯสาขา ใดมีเงินเหลือจ่าย สามารถนำไปสมทบเป็นทุนการศึกษาโดยพิจารณาตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดไว้ในระเบียบว่าด้วยกองทุนการศึกษา

     ข้อ 49 หลักจากคณะกรรมการสิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่ง ให้มีการเลือกตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ ภายใน 90 วันหลังพ้นจากตำแหน่ง

            49.1 การเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารให้ลงคะแนนลับ ยกเว้นที่ประชุมใหญ่สามัญมีมติเป็นอย่างอื่น

            49.2 ให้ผู้สมัครเป็นนายก ยื่นใบสมัครพร้อมด้วยหลักฐานและลงลายมือชื่อ ยื่นต่อเจ้าหน้าที่หรือกรรมการ การเลือกตั้ง

                      49.2.1 หลักฐานการสมัคร ประกอบด้วย

สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาบัตรประจำตัวสมาชิกสมาคม สำเนาผู้พิการ รูปถ่าย 1 นิ้ว 2 รูป ไม่สวมหมวกไม่ใส่แว่น วุฒิการศึกษา

หมวดที่ 8

บทเฉพาะกาล

ข้อ  50 ข้อบังคับนี้ให้เริ่มใช้บังคับได้นับแต่วันที่สมาคมได้รับอนุญาตให้จดทะเบียนนิติบุคคล

ข้อ  51 เมื่อสมาคมได้รับอนุญาตให้จดทะเบียนให้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลจากทางราชการก็ให้ถือว่าผู้เริ่มการทั้งหมดเป็นสมาชิกสามัญ  และสมาชิกภาพของคณะกรรมการที่ตั้งขึ้น เริ่มตั้งแต่วันที่ได้รับจดทะเบียนเป็นต้นไป ประกาศใช้ ณ วันที่  30  พฤศจิกายน  พ.ศ. 2559

                                                                   

 

 

 

ลงชื่อ ....................................................

(ลายพิมพ์นิ้วหัวแม่มือข้างซ้ายของนายล่าซิ สาหนุ)

ผู้จัดทำข้อบังคับ

 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

โครงการสัมมนาเรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพจิตที่ดี เพื่อการพัฒนาศักยภาพและฟื้นฟูสมรรถภาพคนตาบอด

โครงการก่อสร้างศูนย์พัฒนาอาชีพและช่วยเหลือคนตาบอดมุสลิม